วัน-เวลาทำการ :
วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 - 17.00 น.

12 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ หนีร้อน ไป แช่น้ำ

April 21, 2020 | by M.P. World Travel

สวัสดีครับ ลูกเพจที่รักทุกท่าน หน้าร้อนปีนี้ เป็นปีของการอยู่บ้านจริงๆเลยครับ อากาศก็ร้อน ตัวก็เลยร้อนตาม วันนี้แอดมิน พี่ M.P. จะมาพาไปคลายร้อน แช่น้ำชิล ชิล ให้ร่างกายได้รับออกซิเจ และโอโซนอันบริสุทธิ์ กับหมู่แมกไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นเรียงรายอยู่บริเวณน้ำตก ไปแช่น้ำให้ชุ่มช่ำ ไปสูดอากาศให้ชุ่มปอดกันเถอะ ไปดูกันเลย กับ 12 น้ำตก ขวัญใจมหาชน

1.น้ำตกสาริกา

“น้ำตกสาริกา” เป็นอีกหนึ่งน้ำตกยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ ผืนป่า ธรรมชาติยังคงอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตำบลสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีถึง 9 ชั้น ผาชั้นสูงสุดเกือบ 200 เมตร ในแต่ละชั้นมีความงดงามแตกต่างกันไปและมีแอ่งน้ำเหมาะกับการแช่น้ำเย็นฉ่ำผ่อนคลาย ไม่ไกลกันก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอย่างถ้ำสาริกา ที่น่าสนใจไม่แพ้กันอีกด้วย

ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

2.น้ำตกนางรอง 

“น้ำตกนางรอง” น้ำตกขนาดกลางที่ยังคงสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติอีกที่หนึ่ง ด้วยความเป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่นักจึงเป็นจุดยอดนิยมสำหรับคนชอบน้ำตก สามารถลงแช่น้ำได้อย่างสบายใจ แต่ละชั้นมีแอ่งรองรับน้ำขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งยังมีน้ำไหลผ่านตลอด ถือว่าเป็นน้ำตกที่ชิลล์สุด ๆ อีกทีหนึ่งในจังหวัดนครนายกเลย

ค่าธรรมเนียมเข้าชม คนละ 10 บาท รถยนต์คันละ 50 บาท

3.น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

“น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” น้ำตกใสสุดฮิตเมืองสระบุรี เป็นน้ำตกชั้นเตี้ยสูง 7 ชั้น ธารน้ำมีขนาดกว้างเป็นแอ่งขนาดใหญ่หลายแห่ง ที่สำคัญคือไม่ลึกมากจนเกินไป ผู้คนจึงชอบที่จะมาเล่นน้ำตกที่นี่ ไม่แปลกใจเลยว่ามากี่ครั้ง ๆ น้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ยังเป็นจุด Popular สำหรับคนที่อยากพักผ่อนในช่วงเวลาสั้น ๆ

ค่าธรรมเนียมเข้าชม คนละ 20 บาท

4.น้ำตกกระทิง

“น้ำตกกระทิง” อีกหนึ่งน้ำตกที่น่าสนใจในจังหวัดจันทบุรี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีถึง 13 ชั้น ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ช่วงบนเป็นผาน้ำตกที่เปิดโล่งสวยงามจับใจ ส่วนต้นน้ำก็มีแหล่งกำเนิดมาจากเขาคิชฌกูฏ พื้นที่ส่วนใหญ่ยังถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ พันธุ์ไม้นานาชนิด และในน้ำตกก็ยังเต็มไปด้วยปลาพลวงหินมากมาย ถือว่าเป็นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่อุดมสมบูรณ์สุด ๆ

ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

5.อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

เมืองจันท์ไม่ได้มีดีแค่สวนผลไม้นะจ๊ะ น้ำตกก็ถือว่างดงามไม่แพ้ที่ไหน “น้ำตกพลิ้ว” สามารถมาได้ทุกฤดู เพราะน้ำตกยังคงความงดงามอยู่เสมอ ที่สำคัญอากาศยังคงสดชื่นเนื่องจากป่ายังคงเต็มพื้นที่คอยคลายความชื้น น้ำตกพลิ้วมีธารหลัก 2 สาย สายหนึ่งไหลจากหินผา และอีกสายทิ้งตัวมาจากผาสูง จึงทำให้น้ำใสมาก เพราะผ่านการกรองน้ำแบบธรรมชาติ พระเอกของน้ำตกนี้ก็คือปลาพลวงหินที่แหวกว่ายคู่ไปกับสายน้ำอย่างสบายใจ

ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

6.น้ำตกผากล้วยไม้

"น้ำตกผากล้วยไม้" ตั้งอยู่ในบริเวณของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องธรรมชาติเพราะทั้งพันธุ์พืช ผืนป่า และสัตว์น้อยใหญ่ ยังคงสมบูรณ์ แถมบริเวณนั้นก็ยังเป็นจุดกางเต็นท์ยอดนิยมของเขาใหญ่สามารถเดินไปถึงน้ำตกได้เลย (แต่ใช้เวลานิดหนึ่งนะจ๊ะ) ระหว่างทางก็ชมทัศนียภาพที่ยังคงเขียวชอุ่ม ถ่ายรูปเพลินสุด ๆ ขอบอก น้ำตกผากล้วยไม้เป็นน้ำตกขนาดกลางที่สวยงามมาก แค่สูดลมหายใจลึก ๆ ฟอกปอดรับอากาศดี ๆ ก็คุ้มค่าแล้ว

ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

7.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

“น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น” อยู่ทางทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขากะลา ถือเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพ ด้วยความงดงามของชั้นผา 7 ชั้น และทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยป่าเขียวชอุ่ม ใครที่แวะมาต้องประทับใจในความงามอย่างแน่นอน

ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท

8.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

“น้ำตกเอราวัณ” น้ำตกชื่อกระฉ่อนในเมืองไทยที่ห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง! ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีระยะทางประมาณ 1,500 กม. ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 7 ชั้น เดิมชื่อว่า “น้ำตกสะด่องม่องลาย” ตามลำห้วยซึ่งเป็นต้นน้ำ โดดเด่นด้วยน้ำใสสีฟ้าอมเขียว ที่ชั้น 3 ยังเคยเป็นที่ถ่ายทำละครดังเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพอีกด้วย!

ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท

9.น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคใหญ่เป็นน้ำตกคู่บ้านคู่เมืองของกาญจนบุรี อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ภายในอุทยานสามารถเช่าบ้านพักอุทยานหรือกางเต็นท์ค้างคืนได้ ที่นี่มีร้านอาหารไว้คอยบริการด้วยค่ะ ส่วนรอบ ๆ น้ำตกและรอบ ๆ อุทยานก็มีบริการทัวร์ล่องเรือแม่น้ำแควน้อยของเอกชนไว้บริการมากมาย น้ำตกจะไหลจากลำธารแล้วไหลสู่ลำน้ำแควน้อยในท้ายที่สุด ซึ่งสามารถล่องแพเล่นน้ำตกได้นะคะ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมที่จะล่องแพมาเพื่อเล่นน้ำตกที่นี่ เรียกได้ว่า น้ำตกนี้สามารถเดินทางได้ทั้งทางบกและทางน้ำเลย

10.น้ำตกธารทิพย์

ออกจากตัวเมืองปราจีนบุรี มุ่งไปยังอำเภอประจันตคามจะมีน้ำตกจากแหล่งน้ำเขาใหญ่หลายแห่ง เขาว่ากันว่าเป็นอำเภอที่มีน้ำตกใหญ่น้อยมากที่สุดในประเทศไทย ผ่านน้ำตกแรก "ธารทิพย์" ในวันธรรมดาค่อนข้างเงียบ น้ำตกด้านล่างเป็นธารน้ำเหมาะแก่การเล่นน้ำ ส่วนด้านบนเดินเท้าขึ้นไป 1 กิโลเมตร พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เดินต่อไปจะพบทางเดินลงที่ค่อนข้างชันแต่มีราวบันได (ในช่วงหน้าฝนพื้นค่อนข้างลื่น) จะพบแนวน้ำตกไหลผ่านแนวหินที่มีแนวหินสวยงามมาก ระหว่างทางพบฝูงผีเสื้อหลากหลาย

11.น้ำตกช่องลม

นั่งเรือมาสัก 15 นาทีก็ถึงทางลงเดินไปน้ำตกแล้ว ซึ่งปกติถ้าหน้าน้ำเย็นหลังเดือน สิงหาคมไปแล้วเรือจะเข้าใกล้น้ำตกได้เลย แต่เราจะอดเห็นอีกมุมของทางเดินอันสวยงาม อลังการ ของสองข้างทาง ตามทางเดินจะเป็นน้ำตกลำธารไหลตลอดทาง มีโขดหินสวย ได้ปีนป่ายกันสนุก ได้เหงื่อเหนื่อยพอควร เราไปช่วงต้นเดือนกรกฎาคมมีฝูงผีเสื้อด้วยสวยมากๆ พอเดินไปจนสุดทางก็จะเจอน้ำตกช่องลม น้ำไหลเยอะเลยเพราะเข้าหน้าฝนแล้ว เล่นน้ำกันจนหนำใจ

12.น้ำตกชันตาเถร

น้ำตกชันตาเถรเป็นวิวภูเขาสวยงาม เขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ เห็นแล้วชื่นใจแบบบอกไม่ถูก เมื่อเดินมาถึงน้ำตกก็รู้สึกหายเหนื่อยเลยค่ะ นับว่าเป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้มาเยือนน้ำตกแห่งเดียวในจังหวัดชลบุรีอย่างน้ำตกชันตาเถร ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกันคือ เนินตาเถร แอ่งตาเถร หุบตาเถร และชันตาเถร รวมระยะทางไป-กลับน้ำตกจนถึงชั้นสูงสุดประมาณ 1 กิโลเมตร นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี แบบลับ ๆ ที่ชิลล์อย่าบอกใครเลย

โอย โอย เห็นอย่างนี้ก็อยากไปกระโดดน้ำสักตูมให้ลืมหน้าร้อนไปเลยใช่มั๊ยครับ แต่ไม่ใช่เฉพาะหน้าร้อนอย่างเดียวที่สามารถเที่ยวน้ำตกได้นะครับ ไม่ว่าหน้าหนาว หรือ หน้าฝน ประเทศไทยของเราก็สามารถเที่ยวน้ำตกได้ทุกฤดูกาลเลยทีเดียว ประเทศไทย ใครว่าไม่มีอะไร ประเทศของเรามีจนำให้เพื่อนบ้านอิจฉาเลยก็ว่าได้ครับ สุดท้ายแอดมินก็ขอฝากความห่วงใยผ่านสายอินเตอร์เน็ต ไม่ติดต่อ ไม่ติดเชื้อ หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ถึงเวลาเมื่อไหร่ค่อยสนุกกันให้เต็มที่นะครับ เอาไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคร้าบบบ บ๊าย บาย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wongnai